อเนื่อง สามารถไปขอความช่วยเหลือได้ที่คลินิกฉุกเฉิน
2. สังเกตว่ามีเลือดออกหรือรู้สึกปวดท้องหรือไม่ หากมีอาการเวียนหัวอย่
างรุนแรง,หัวใจเต้นเร็ว,ปวดท้อง, หายใจเร็วกว่าปกติหรือมีอาการไม่สบาย
อื่นๆกรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่พยาบาลทราบ
3. หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงสามารถดึงแผ่นผ้าที่ปิดบริเวณแผลที่เจาะออกไ
ด้ ควรรักษาบาดแผลให้แห้งตลอดเวลา
การรักษาเฉพาะที่สำหรับเนื้อร้ายในตับสามารถแบ่งออกเป็นการผ่าตัดเอา
เนื้อร้ายออก,การอุดกั้นหลอดเลือดแดงในตับ, การฉีดแอลกอฮอล์เข้าก้อนเนื้อ
ร้ายโดยผ่านทางผิวหนังและการจี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุหลังจากได้ทำการประเ
มินอาการอย่างละเอียดแล้วแพทย์มีความเห็นว่าในขณะนี้ท่านมีความจำเป็นต้
องรับการรักษาด้วยการผ่าตัดจี้ทำลายเนื้อร้ายในตับด้วยคลื่นความถี่วิทยุเราจึงขอแนะนำวิธีการรักษาดังกล่าวและข้อควรระวังที่จำเป็นให้ท่านทราบหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากท่าน
ทย์จะทำการสอดหัวอิเล็กโทรดทะลุเข้าก้อนเนื้อร้ายในตับด้วยการนำทางของอัลตรา
ซาวด์ หรือของเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์(ซีที สแกน) ที่ใช้พลังง
านความร้อนในการทำลายเนื้อเยื่อของเนื้อร้ายในตับให้แข็งตัวตายเพื่อให้
บรรลุถึงผลของการรักษาเนื้อร้ายในตับ
งขึ้นไปตามคำแนะนำของแพทย์ สำหรับการผ่าตัดด้วยคลื่นความถี่วิทยุที่
นำทางด้วยอัลตราซาวด์นอกจากยาแล้วให้งดอาหารตามคำสั่งแพทย์ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นการตรวจช่องท้องในวันรุ่งขึ้นและให้
รับ\
ประทานอาหารได้หลังจากได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่ต้องรับการผ่าตัดต่อและไม่มีอาการเลือดออก
B.หลังผ่าตัดให้ใช้ถุงทรายกดทับบริเวณแผลที่เจาะเป็นเวลา 6 ชั่วโมง และต้องนอนบนเตียงเป็นเวลา 12 ชั่วโมงตามความจำเป็น C.สังเกตว่ามีเลือดออกหรือรู้สึกปวดท้องหรือไม่ หากมีอาการเวียนหัวอย่
างรุนแรง,หัวใจเต้นเร็ว,ปวดท้อง, หายใจเร็วกว่าปกติหรือมีอาการไม่สบาย
อื่นๆกรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่พยาบาลทราบ
D.เจ้าหน้าที่พยาบาลจะทำการวัดความเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพเช่นความดันโลหิต,การเต้นของชีพจร,อัตราการหายใจ
เป็นต้น, ตรวจดูบาดแ
ผลและตำแหน่งที่กดทับด้วยถุงทรายเป็นระยะๆ
E.ในระหว่างที่นอนอยู่บนเตียงนั้น หากต้องการถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ ต้องให้ญาติช่วยเหลือในการใช้ถาดอุจจาระหรือ กระโถนปัสสาวะในการขับถ่ายบนเตียง ห้ามลุกลงจากเตียงเอง เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกภายใน
F.หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงสามารถดึงแผ่นผ้าที่ปิดบริเวณแผลที่เจาะออกไ
ด้ ควรรักษาบาดแผลให้แห้งตลอดเวลา
ลาที่แพทย์กำหนด
B.หากรู้สึกเจ็บปวดบริเวณบาดแผลสามารถรับประทานยาระงับปวดที่แพทย์สั่งได้
C.หากมีอาการปวดอย่างรุนแรง, เหงื่อออกมากหรือมีไข้หนาวสั่นอย่างต่
อเนื่อง สามารถไปขอความช่วยเหลือได้ที่คลินิกฉุกเฉิน